ในปัจจุบันเชื่อได้ว่ามากว่า 80% มีอาการเมื่อยตา ปวดตา ตาแล้ง ตาล่า แสบตา ซึ่งเกิดจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บแล็ต เป็นเวลานานๆ ซึ่งจะส่งผลร้ายในระยะยาว ลามไปถึงอาการปวดหัว และปวดหลัง วันนี้จะมีวิธีผ่อนคลายและถนอมสายตาง่ายๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ 1. ปรับขนาดตัวอักษร บนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น ให้พอดี เหมาะสมกับการมองเห็นของสายตาเรา 2. หระพริบตาให้บ่อยขึ้น เพราะในขณะที่จอหน้าจอ บางทีอาจจะจ้องนานไป จนอาจลืมกระพริบ จึงจะทำให้เกิดอาการตาแห้งได้นะค่ะ 3. ปรับแสงสว่างหน้าจอให้สบายตา 4. ใช้กฎ 20-20-20 คือ ให้เราทำงาน 20 นาที แล้วพักสายตามองไกลๆ ไป 20 ฟุต เป็น เวลา 20 นาที ทำแบบวนไป จะใช้ภนอมสายตาของคุณได้มากนะค่ะ 5. ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ประคบรอบดวงตา เบาๆ 6. ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพียงเท่านี้เราก็ก็จะช่วยถนอมดวงตาของเราได้แล้วค่ะ
หลังจากที่ กสทช. ออกประกาศใหม่ให้ผู้ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนโดรน ต้อง ขึ้นทะเบียนโดรน ภายใน 90 วัน หาก ไม่ขึ้นทะเบียนโดรน และออกบินโดรนจะมีโทษทั้งจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งประกาศนี้ออกตามอาศัยตามมาตร 14 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 งานนี้ผู้ที่มีโดรน คงงง สงสัย และคาใจ ว่าจะต้องทำการ ขึ้นทะเบียนโดรน ยังไงแน่ งานนี้ ทาง กพท. และ กสทช. ก็ได้ทำ Infographic ให้คลายข้อสงสัยกัน จากโพสต์ของ กพท. หรือ (CAAT) เผยว่า การข้อขึ้นทะเบียนโดรน ต้องขอขึ้นทะเบียนทั้ง 2 หน่วยงานคือ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. , CAAT) และ สำนักงาน กสทช. โดย การลงทะเบียนโดรนของ กสทช. เป็นการลงทะเบียน การครอบครองโดรน (คล้ายๆการทำทะเบียนรถยนต์ ) ฉะนั้น ผู้บังคับโดรน ต้องไปขึ้นทะเบียนผู้บังคับอากาศยาน คล้ายกับขึ้นทะเบียนใบขับขี่ ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ( กพท. , CAAT ด้วย) แม้จะลงทะเบียนครอบครองโดรนแล้ว ก็ยังไม่สามารถบินได้ทันที จะบินได้ก็ต่อเมื่อขึ้นทะเบียนกับ กพท. (CAAT)เรียบร้อยและได้รับหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนผู้บังคับอากาศยาน เส...